แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ceetanchanok

หน้า: [1]
1
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 3 เดือน ต้องเติมเพิ่มไหม? หรืออยู่ยาวแบบสวย ๆ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้ปัญหาถุงใต้ตา ร่องลึก ความหมองคล้ำที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าได้ทันที และเห็นผลอย่างชัดเจนหลังเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่ฟิลเลอร์มีอายุการใช้งานจำกัด ซึ่งอาจต้องเติมเพิ่มเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อให้ผลลัพธ์ยังคงความสวยงามได้ มาดูกันว่า หลังจาก 3 เดือนไปแล้ว ฟิลเลอร์ใต้ตาควรเติมเพิ่มหรือไม่? และมีวิธีการดูแลอย่างไรให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น?

อายุของฟิลเลอร์แต่ละประเภท
ฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับใต้ตาส่วนใหญ่จะเป็น ฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูง และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ฟิลเลอร์ HA จะถูกดูดซึมไปตามธรรมชาติในร่างกาย และจะสลายตัวภายในระยะเวลา 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพผิว การดูแลหลังการฉีด และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
นอกจากนี้ยังมีฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ เช่น Calcium Hydroxylapatite (CaHA) หรือ Poly-L-lactic Acid (PLLA) ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า และบางชนิดอาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

อาการที่บอกว่าถึงเวลาต้องเติมฟิลเลอร์
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้ว 3 เดือนหรือมากกว่า บางคนอาจเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในผลลัพธ์ที่ได้ เช่น
  • ร่องลึกกลับมา: หากฟิลเลอร์เริ่มสลายตัวไปตามธรรมชาติ ร่องลึกใต้ตาอาจกลับมาเห็นชัดขึ้น
  • ความหมองคล้ำใต้ตากลับมา: ฟิลเลอร์ช่วยให้ผิวใต้ตาดูสดใส แต่เมื่อฟิลเลอร์เริ่มสลายไป ความหมองคล้ำอาจกลับมาอีกครั้ง
  • ถุงใต้ตาเด่นขึ้น: หากฟิลเลอร์เริ่มสลาย การปรับสภาพใต้ตาที่เคยดูดีอาจเริ่มกลับมาเด่นอีกครั้ง
หากคุณเริ่มสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ นั่นอาจหมายความว่า ถึงเวลาที่คุณต้องเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม หลังจากฉีด 3 เดือนขึ้นไป ฟิลเลอร์จะยังคงทำงานอยู่ และสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีดูแลให้ฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ได้นาน ไม่ต้องเติมบ่อย
การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์คงผลลัพธ์ได้นานขึ้น นี่คือคำแนะนำที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์ใต้ตาของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีด: หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่หรือเสียรูปทรง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก: ควรงดการออกกำลังกายที่มีการกระแทกหรือการใช้แรงมาก ๆ ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการฉีด เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน: ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงหรือการอยู่ในสถานที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ซาวน่า เพราะความร้อนสามารถทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • ใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสม: หลังการฉีดฟิลเลอร์ ควรใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นให้ผิวใต้ตา
  • หมั่นตรวจสอบกับแพทย์: การไปพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจสอบผลลัพธ์หลังการฉีดจะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีแก้ไขปัญหาปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยใต้ตา ร่องใต้ตา ปัญหาเบ้าตาลึก ใต้ตาโหล ใต้ตาดำคล้ำ และปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ที่ดี ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่เนื่องจากฟิลเลอร์จะสลายตัวไปตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 6-18 เดือน การเติมฟิลเลอร์เพิ่มอาจจำเป็นเมื่อเริ่มเห็นอาการเช่น ร่องลึก ความหมองคล้ำ หรือถุงใต้ตาที่กลับมาเด่น
การดูแลหลังการฉีดฟิลเลอร์มีความสำคัญที่จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว เช่น การสัมผัสบริเวณที่ฉีด การออกกำลังกายหนัก หรือการโดนแสงแดดโดยตรง หากคุณดูแลฟิลเลอร์ดี ๆ ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ของคุณสวยงามและยั่งยืนไปนานขึ้น

2
ในปัจจุบันนี้การดูแลผิวไม่เพียงแต่เป็นการบำรุงจากภายนอกด้วยครีมหรือเซรั่มต่าง ๆ แต่ยังมีการใช้เทคโนโลยีความงามที่ทันสมัยเข้ามาช่วยฟื้นฟูผิวในเชิงลึก หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปี 2025 คือ การใช้ Filler ที่เป็นสำหรับงานผิว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การเติมเต็มริ้วรอยหรือการปรับรูปทรงใบหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพผิวโดยตรง โดยเฉพาะในกรณีที่ผิวมีปัญหาหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น หรือเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า

หนึ่งในฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมและความสนใจในปัจจุบันคือ Belotero Revive ซึ่งเป็น Filler ที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสดใสและมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด Filler งานผิวชนิดนี้มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจากภายใน และยังมีส่วนประกอบของกลีเซอรีนที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น

Filler Belotero Revive ทำงานอย่างไร?
Belotero Revive ทำงานโดยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระดับเซลล์ ซึ่งไฮยาลูรอนิค แอซิดใน Filler ชนิดนี้จะช่วยดึงดูดน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ดูเนียนเรียบ กระจ่างใส และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัดหลังจากการรักษาเพียงครั้งเดียว โดยไม่มีการบวม หรือลอยนูนที่เกิดขึ้นจากการใช้ Filler ชนิดอื่น ๆ

เหมาะกับใคร?
Filler Belotero Revive เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น หรือผิวแห้งกร้านที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การโดนแสงแดด หรือการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูมีสุขภาพดีขึ้นและสดใสขึ้น จะพบว่า Filler ชนิดนี้ช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าและต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวอีกด้วย

ข้อดีของการใช้ Filler งานผิว Belotero Revive
1. การฟื้นฟูผิวจากภายใน : Filler ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นในผิวจากภายใน ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดีขึ้น
2. ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : ผลลัพธ์จากการใช้ Belotero Revive จะดูเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดการบวม หรือลอยนูนเหมือนกับฟิลเลอร์ชนิดอื่น ๆ
3. การบำรุงผิวยาวนาน : หลังจากการรักษาแล้ว ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นานถึง 6-9 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
4. ความปลอดภัยสูง : เนื่องจากมีส่วนผสมของไฮยาลูรอนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้ จึงไม่เกิดผลข้างเคียงหรือการแพ้

การดูแลหลังการรักษา
หลังการฉีด Filler Belotero Revive ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการบีบที่บริเวณที่ได้รับการฉีดเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อหรือการบวม นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดจัดในช่วงแรกหลังการฉีด และหมั่นทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV

สรุป
การใช้ฟิลเลอร์งานผิวอย่าง Belotero Revive เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมามีความสดใสและสุขภาพดีในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื้น และริ้วรอยเล็ก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ  Filler ชนิดนี้จึงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความงามและเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

3
แนะนำสาร Anti Aging ที่จะช่วยพาคุณก้าวสู่การชะลอวัย

สาร Anti-Aging คืออะไร สาร Anti-Aging หรือ สารต้านวัย คือ สารที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์ มีสุขภาพดี และช่วยชะลอความแก่ชราได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารเหล่านี้ทำงานโดยการต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายอีกด้วย

อธิบายเพิ่มเติมได้ว่า สาร Anti-aging หรือสารต้านวัย ตามหลักเวชศาสตร์ชะลอวัยเป็นสารที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ร่างกายดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพที่ดีขึ้น โดยสารเหล่านี้มักจะทำงานโดยการ:


  • ต้านอนุมูลอิสระ : อนุมูลอิสระเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เซลล์เสื่อมสภาพ สารต้านอนุมูลอิสระจะเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระเหล่านี้ ทำให้เซลล์ได้รับความเสียหายน้อยลง
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน :คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
  • ซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย :สารบางชนิดมีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระหรือปัจจัยอื่นๆ


สาร Anti-aging ที่พบได้ทั่วไป มีดังนี้

  • วิตามินซี : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ผิวกระจ่างใส
  • วิตามินอี : ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย และช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • โคเอนไซม์ คิวเท็น (CoQ10) : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญสำหรับเซลล์ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์
  • เรสเวราทรอล (Resveratrol) : พบมากในองุ่นแดง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยปกป้องหัวใจ
  • กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) : ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และลดเลือนริ้วรอย
  • เปปไทด์ (Peptides) : เป็นสายของกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • กรดอะมิโน : ช่วยในการซ่อมแซมเซลล์และสร้างโปรตีน

วิธีรับสาร Anti-aging

  • อาหาร : รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สีสดใส ธัญพืช ถั่ว
  • อาหารเสริม : รับประทานอาหารเสริมที่ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
  • ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว :ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เซรั่ม ครีม

ข้อควรระวัง:
  • ปรึกษาแพทย์ : ก่อนรับประทานอาหารเสริมใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ :เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี อย. และผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน
  • ไม่ควรใช้สาร Anti-aging ในปริมาณที่มากเกินไป : อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้

สรุป

สาร Anti-Aging เป็นตัวช่วยที่ดีในการชะลอความแก่ชราและดูแลสุขภาพ แต่การใช้สารเหล่านี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ การมีวิถีชีวิตที่ดี เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาวได้อย่างยั่งยืน



4
ของขวัญสำหรับวัยรุ่น ไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป แค่เลือกของที่ถูกใจและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ก็สามารถสร้างความประทับใจได้แล้วค่ะ ลองดูไอเดียเหล่านี้สิคะ

1. อุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีเก๋ๆ ที่มากกว่าแค่สวย
นอกจากเคสโทรศัพท์ลายสวยๆ หรือหูฟังไร้สายแล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมเทคโนโลยีอีกมากมายที่น่าสนใจ เช่น

  • แท่นชาร์จไร้สาย : สะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลาเสียบสายชาร์จ
  • ที่คาดผมสำหรับใส่หูฟัง : ช่วยให้ใส่หูฟังได้พอดี ไม่รบกวนผม
  • ไฟหน้าจอโทรศัพท์ : ปรับแสงสีได้ตามต้องการ ช่วยถนอมสายตาตอนใช้โทรศัพท์ในที่มืด

เคล็ดลับ : เลือกอุปกรณ์เสริมที่เข้ากับสีของโทรศัพท์ หรือเลือกแบบที่มีไฟ RGB ปรับเปลี่ยนสีได้ตามอารมณ์

2. อุปกรณ์กีฬาและฟิตเนส ที่มากกว่าแค่ออกกำลังกาย
  • ลูกบอลบีบลดความเครียด : ช่วยคลายความตึงเครียดจากการเรียนหรือทำงาน
  • ยางดึงออกกำลังกาย : ขนาดพกพา สะดวกต่อการออกกำลังกายได้ทุกที่
  • เชือกกระโดดอัจฉริยะ : นับจำนวนครั้งที่กระโดด และบันทึกสถิติการออกกำลังกาย

เคล็ดลับ : เลือกอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย และมีดีไซน์ที่น่าสนใจ จะยิ่งกระตุ้นให้วัยรุ่นอยากออกกำลังกายมากขึ้น

3. ของใช้ส่วนตัวที่มีสไตล์ ที่มากกว่าแค่สวย
  • กระเป๋าผ้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล : สนับสนุนสิ่งแวดล้อม และแสดงออกถึงความใส่ใจ
  • ขวดน้ำสแตนเลส : ช่วยลดการใช้พลาสติก และรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้ดี
  • สมุดโน้ตแบบดิจิทัล : เขียนบันทึก วาดรูป หรือจัดระเบียบงานได้อย่างสะดวก

เคล็ดลับ : เลือกของใช้ส่วนตัวที่มีฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น สมุดโน้ตที่กันน้ำได้ หรือขวดน้ำที่มีตัวกรองน้ำ

4. บัตรของขวัญ ที่มากกว่าแค่ของขวัญ
  • บัตรของขวัญร้านค้าออนไลน์ : ให้เขา/เธอได้เลือกซื้อสินค้าที่ต้องการเองอย่างอิสระ
  • บัตรของขวัญร้านอาหาร : พาเพื่อนไปทานอาหารอร่อยๆ
  • บัตรของขวัญร้านทำเล็บ : ให้เขา/เธอได้ทำเล็บสวยๆ

เคล็ดลับ : เลือกบัตรของขวัญร้านที่ตรงกับความสนใจของผู้รับ

5. ของที่ระลึกทำมือ ที่มากกว่าแค่ของขวัญ
  • กำไลข้อมือทำมือ : ใส่ชื่อหรือข้อความสั้นๆ ที่มีความหมาย
  • เทียนหอม : ทำจากวัสดุธรรมชาติ กลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วยผ่อนคลาย
  • ภาพวาด : วาดภาพเหมือน หรือภาพที่สื่อถึงความรู้สึก

เคล็ดลับ : การทำของขวัญด้วยตัวเองจะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความใส่ใจเป็นพิเศษ

  • ใส่ใจในรายละเอียด : เลือกของขวัญที่สอดคล้องกับความชอบของเขา/เธอ เช่น ถ้าชอบศิลปะ ก็อาจจะเลือกซื้ออุปกรณ์วาดรูป หรือถ้าชอบดนตรี ก็อาจจะเลือกซื้อหูฟัง
  • เพิ่มความพิเศษ : หาของขวัญที่ไม่เหมือนใคร หรือทำการ์ดอวยพรเอง
  • บรรจุภัณฑ์ : บรรจุของขวัญให้น่าสนใจ จะช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับผู้รับ
  • คำนึงถึงความยั่งยืน : เลือกของขวัญที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ หรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจาก 5 หัวข้อด้านบนแล้วกลุ่มที่เป็นเครื่องสำอาง  ก็ถือว่าเป็นของขวัญที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นลิปสติก ของเมย์เบลลีน หรือลิปสติก ของลอรีอัล ปารีส รวมถึงแบรนด์อื่น ๆ หวังว่าไอเดียเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกของขวัญให้น้องๆ นะคะ

5
บอกต่อเคล็ดลับความสวย เผยงานผิวสุดเนียนใสไร้ริ้วรอยและจุดด่างดำ ด้วยสกินแคร์ตัวท็อป และแป้งพัฟสุดบางเบา :)

ช่วงนี้สาว ๆ คนไหนมีปัญหาผิวบ้าง? ไม่ว่าจะเป็นจุดด่างดำที่ชอบโผล่มาทักทายหรือริ้วรอยเล็ก ๆ ที่มองในกระจกแล้วใจหาย ใครเจอปัญหาแบบนี้ต้องมารวมตัวกันตรงนี้เลย เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยกู้ผิวให้กลับมาสวยเนียนใส ไร้จุดด่างดำ บวกกับตัวช่วยให้การแต่งหน้าให้เนียนกริบแบบไม่ต้องกังวลเรื่องผิวอีกต่อไป มาเริ่มกันเลย !

บอกลาริ้วรอย ด้วยเรตินอล

เรื่องริ้วรอยอาจจะไม่เห็นชัดเท่าไหร่ตอนยังสาว ๆ แต่ถ้าเริ่มมีร่องลึกใต้ตาหรือมุมปากนิด ๆ แล้วล่ะก็ ต้องเริ่มดูแลตั้งแต่ตอนนี้เลยนะ ขอแนะนำ Kiehl’s Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose Serum
เรตินอล ตัวนี้เลย ที่จะทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ! ด้วยเทคโนโลยี Micro-dose เซรั่มนี้มีเรตินอลบริสุทธิ์ที่ช่วยกระชับผิวและทำให้ผิวเนียนละเอียดขึ้น พร้อมลดริ้วรอยร่องลึกให้ดูจางลงอย่างเห็นได้ชัด ความพิเศษคือ เซรั่มเรตินอลสูตรนี้ออกแบบมาให้ อ่อนโยนต่อผิว ใช้ได้แม้ในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ทำให้สาว ๆ สามารถดูแลผิวได้อย่างสบายใจ เพียงแค่ใช้ 1 ปั๊มทุกวันไปสักระยะจะรู้สึกว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น เวลาทารองพื้นหรือทาแป้งก็จะไม่เป็นร่องลึก แถมหน้าดูเด็กลงอีกด้วย

สกินแคร์ลดจุดด่างดำ ของมันต้องมี

สำหรับสาว ๆ ที่มีจุดด่างดำจากสิวหรือรอยหมองคล้ำต่าง ๆ เวลาแต่งหน้าแล้วต้องคอยปกปิดทุกครั้งมันน่ารำคาญใจเหลือเกิน แต่ปัญหานี้จะหมดไป เพราะเรามีทางออกให้ ถ้าอยากมีผิวใสไร้จุดด่างดำ สิ่งแรกที่ต้องมีในรูทีนคือ สกินแคร์ลด
จุดด่างดำ แนะนำตัวนี้เลย Kiehl’s Clearly Corrective™ Dark Spot Solution เซรั่มตัวดังที่จะช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เขามีคุณสมบัติพิเศษในการลดรอยสิวและจุดด่างดำ พร้อมทั้งช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนสีของผิวในอนาคต เพราะมีส่วนผสมหลักจากวิตามิน C เพียงแค่ใช้เป็นประจำเช้า-เย็น แล้วจะเห็นผลชัดเจนเลยว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้น จุดดำ ๆ ที่เคยอยู่บนหน้าจะจางลงเรื่อย ๆ แบบที่ไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดอีกต่อไป พูดเลยว่าใครไม่ลองคือพลาดมาก

แป้งพัฟดี ๆ น่าใช้ ตัวช่วยเสริมลุคเนียนกริบอย่างบางเบา

พอเราดูแลผิวด้วยสกินแคร์ดี ๆ แล้ว แน่นอนว่าเวลาแต่งหน้าก็ต้องได้ลุคสุดเป๊ะตามไปด้วย ใครกำลังมองหาเครื่องสำอางดี ๆ ที่ช่วยให้หน้าเนียนตลอดวัน เราขอแนะนำตัวนี้เลย L'Oreal True Match Even Perfecting Powder Foundation
แป้งพัฟ เนื้อสัมผัสบางเบาดุจแพรไหม ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและไม่หนักหน้า พร้อมเบลอรูขุมขนได้ดีสุด ๆ แป้งพัฟตัวนี้ให้งานผิวแมตต์เนียนละเอียดเหมือนเปิดฟิลเตอร์ ไม่ว่าจะออกไปทำกิจกรรมไหนก็มั่นใจได้ว่าผิวจะยังคงสวยอยู่ตลอด เพราะเขาปกปิดได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง รับรองว่าสวยเป๊ะทั้งวันแบบไม่ต้องเติมแป้งเลย

6
มัดรวม 4 ครีมกันแดดตัวท็อปใน 7-11 อยากผิวสวยเป๊ะปัง ต้องป้องกันให้ดี :-*

เคยเป็นไหม ? เวลาออกไปเจอแดดแรง ๆ กลับบ้านทีผิวคล้ำเสีย แถมบางทีก็รู้สึกแสบ ๆ ผิวอีก นี่แหละปัญหาที่หลายคนมองข้าม ! แสงแดดประเทศไทยไม่เคยปราณีใครจริง ๆ การทาครีมกันแดดเลยกลายเป็นไอเท็มจำเป็นของสาว ๆ ที่อยากดูแลผิวให้สวยใสอยู่เสมอ ไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้า ขออย่างเดียวคือต้องทาครีมกันแดดทุกวัน
ถ้าคิดว่าอยู่ในร่มทั้งวัน ไม่เจอแดดตรง ๆ ก็เลยไม่ใช้กันแดด บอกเลยว่าพลาดมาก เพราะรังสี UV แทรกซึมได้จากหน้าต่าง หรือแม้แต่แสงจากคอมพิวเตอร์ก็ทำให้ผิวของเราแย่ลงได้แบบไม่รู้ตัวเลย การทาครีมกันแดดทุกวันจึงเป็นการลงทุนกับผิวที่คุ้มค่ามาก เพราะไม่ใช่แค่ปกป้องผิวจากการคล้ำเสียเท่านั้น แต่ยังช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วยนะ


วันนี้เลยจะมาแนะนำ 4ครีมกันแดด 7-11 ตัวท็อปสุดปัง หาซื้อง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ จดแล้วไปซื้อตามกันได้เลย มาดูกันว่าแต่ละตัวมีคุณสมบัติและจุดเด่นอะไรบ้าง แล้วสูตรไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และประเภทผิวของเรา สาว ๆ จะได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ !

การ์นิเย่ ซูเปอร์ ยูวี-อินวิซิเบิ้ล ซันสกรีน SPF 50+ PA++++
มาเริ่มกันที่ตัวแรก จุดเด่นของตัวนี้คือเป็นเนื้อเซรั่ม เนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่สำคัญไม่ทำให้เกิดคราบขาวบนใบหน้า จะให้เนื้อสัมผัสเซรั่มที่เบาสบายเหมือนไม่ได้ทา สามารถใช้ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกหนักหน้า เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบความรู้สึกหนัก ๆ บนผิว


การ์นิเย่ ไบรท์ คอมพลีท ซุปเปอร์ ยูวี SPF 50+ PA++++ สูตรสีแนทเชอรัล
ตัวนี้เป็นกันแดดที่ไม่ได้แค่กันแดด เพราะมาพร้อมกับวิตามินซีเข้มข้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวคล้ำเสีย ลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้ผิวกระจ่างใส แถมยังมีวิตามินอี ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากแสงแดดและมลภาวะอีกด้วย ทั้งป้องกันแดดและแก้ปัญหาผิวได้ในตัวเดียว ครบจบ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม


การ์นิเย่ ไบรท์ คอมพลีท ซุปเปอร์ ยูวี SPF 50+ PA+++ สูตรแมทท์
สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวมันหรือผิวผสมต้องตัวนี้เลย ครีมกันแดดสูตรแมทท์จะช่วยควบคุมความมันได้ดีมาก ทำให้ผิวหน้าไม่มันเยิ้ม บอกเลยว่าเหมาะสำหรับการใช้ในวันที่อากาศร้อนหรือชื้นสุด ๆ หน้าเป๊ะ ไม่ไหลเยิ้มแน่นอน เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยจริง ๆ


การ์นิเย่ ซากุระ โกลว์ ซุปเปอร์ ยูวี SPF 50+ PA++++
ตัวสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เลย เพราะมีสารสกัดจากซากุระ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสอมชมพู และยังมีวิตามินบี 3 ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิวคล้ำเสีย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวในระยะยาว ไม่ต้องกังวลเรื่องความแห้งกร้านอีกต่อไป


เตือนตัวเองไว้เลย การทาครีมกันแดดเป็นเรื่องที่ต้องทำให้ติดเป็นนิสัย เพราะผิวสวยไม่ใช่แค่การบำรุงหลังเจอปัญหา แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น การทาครีมกันแดดทุกวันจะช่วยปกป้องผิวของเราจากความเสียหายระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ หรือแม้แต่โรคผิวหนัง อย่าลืมทาทุกวัน เพื่อผิวสวยสุขภาพดีในทุก ๆ วันนะ


7
บอกต่อเรตินอลที่จริงใจ เคล็ดลับผิวใสไร้ริ้วรอย

นาทีนี้ใครที่ไม่รู้จักเรตินอลถือว่าพลาดมากๆเลยค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์เรตินอลนั้นมีประโยชน์ต่อผิวของเราหลากหลายด้านมาก โดยเฉพาะการต้านริ้วรอยแห่งวัย ช่วยฟื้นพูกระชับผิว แก้ปัญหาเรื่องจุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำไม่กระจ่างใส ที่นับว่าเป็นปัญหาหลักๆที่คอยทำให้สาวๆขาดความมั่นใจอยู่เสมอ ใครที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย มีผิวหน้าที่ดูสดใส ไม่หมองคล้ำต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะวันนี้เราจะมาบอกต่อผลิตภัณฑ์เรตินอลที่ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์แบบชัวร์จริงไม่จกตา เพื่อเป็นตัวช่วยให้สาวๆได้รับมือและจัดการกับปัญหาผิวอย่างปลอดภัย ฟื้นฟูผิวให้ให้สวยใส ไร้ริ้วรอย มีผิวสุขภาพดีกันค่ะ

เรตินอลเซรั่มที่จริงใจตัวแรกที่จะแนะนำให้สาวๆได้รู้จัก เป็นเรตินอลเซรั่มของ Kiehl’s นั่นคือ Retinol Skin-Renewing Daily Micro-Dose Serum เป็นเรตินอลเซรั่มที่ใช้ง่าย และอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้แพ้หรือระคายเคือง สามารถใช้ได้ทุกวัน ช่วยเรื่องลดริ้วรอยร่องลึกได้ดีมากๆ ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนทำให้ผิวของเรานั้นค่อยๆกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ รูขุมขนกระชับ พร้อมแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ และจุดด่างดำรวมถึงปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวให้กลับมาเนียนใส ใช้แล้วสาวๆจะต้องมีผิว Glass skin ผิวฉ่ำจนเพื่อนต้องอิจฉาแน่นอน

วิธีใช้

  • ใช้เรตินอลเซรั่มในปริมาณ 1 ปั๊ม ทาทั่วใบหน้า ก่อนการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ โดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา
  • ใช้ควบคู่กับมอยส์เจอไรเซอร์และผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ

เพื่อผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสมีออร่า ขอแนะนำ เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิวจาก Kiehl’s เช่นเดียวกัน นั่นคือ Clearly Corrective™ Dark Spot Solution ที่สามารถใช้ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์เรตินอลได้เลย เป็นเซ็ตคู่หูสำหรับดูแลผิวแบบสุดปัง เพราะเซรั่มลดเลือนจุดด่างดำจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องจุดด่างดำ รวมทั้งรอยแดงจากการเป็นสิว ทำให้รอยและจุดด่างดำต่างๆดูจางลง ปรับผิวที่หมองคล้ำให้ดูสว่างกระจ่างใสขึ้นพร้อมป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ โดยที่ไม่ทำร้ายผิว ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวพร้อมเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงมากขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำต่อเนื่องสาวๆจะต้องมีผิวดูฉ่ำโกลด์แข็งแรงสุขภาพดีจนต้องหลงรักผิวตัวเองแเลยค่ะ

วิธีใช้

  • ใช้เซรั่มลดเลือนจุดด่างดำได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเวลากลางคืน เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำและรอยสิว อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้ทาเฉพาะจุดหรือทาทั่วใบหน้า ก่อนการทามอยเจอร์ไรเซอร์ และขั้นตอนการบำรุงอื่นๆ แนะนำให้ใช้คู่กับผลิตภัณฑ์กันแดดในช่วงเช้า

ตัวสุดท้าย จะพลาดไม่ๆได้เลยหากพูดถึงการแก้ปัญหาเรื่องริ้วรอย ขอแนะนำเซรั่มลดริ้วรอย L'Oreal Paris Revitalift Hyaluronic Acid Serum ของลอรีอัล ที่สาวๆจะต้องยกให้เป็นเซรั่มต่อต้านริ้วรอยที่จริงใจที่สุด เพราะช่วยดูแลผิวแบบครบวงจร ช่วยยกกระชับผิวไม่ให้หย่อนคล้อย เนื้อเซรั่มเข้มข้นมีความอ่อนโยนและปลอดภัยเพราะเป็นเซรั่มเนื้อเจลสีใสไม่มีสีสังเคราะห์ มีเนื้อสัมผัสที่ความบางเบาจึงสามารถบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกพร้อมกักเก็บและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำ อิ่มน้ำ แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านไม่เรียบเนียนทำให้สาวๆมีผิวที่ดูอ่อนวัยใครๆก็ทักขอเคล็ดลับการดูแลผิวกันเลยทีเดียว

วิธีใช้

  • ใช้เซรั่มลดริ้วรอยเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้าและช่วงเวลากลางคืน เพื่อ ช่วยลดริ้วรอย และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทาเซรั่มลงบนผิวหน้าที่ทำความสะอาดแล้วให้ทั่วใบหน้า ก่อนขั้นตอนการบำรุงอื่นๆ



8
บอกต่อตัวช่วยในการลดสิว และป้องกันการเกิดสิว เพื่อผิวใสออร่า

การดูแลผิวหน้าสำหรับคนเป็นสิวบางครั้งดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่เมื่อเป็นสิวซ้ำๆซากๆ ต้องดูแลปัญหาเรื่องสิวอยู่ตลอดก็ไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ไหนจะสิว ไหนจะรอย ไหนจะปรับให้ผิวหน้าเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น แค่พูดมาก็เหนื่อยแล้ว วันนี้เราเลยจะมาบอกต่อตัวช่วยดีๆของสาวๆที่เป็นสิว ว่าเลือกสกินแคร์ยังไงให้ช่วยดูแลผิวหน้าได้ครบ ตั้งแต่การลดสิว ไปยันเรื่องของดูแลรอยสิว และผิวหน้ากระจ่างใสกันเลยทีเดียว และยังเป็นสกินแคร์ที่มีความปลอดภัย อ่อนโยนต่อผิวของสาวๆที่เป็นสิวโดยเฉพาะ และยังเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ดดเด่นในการดูแลผิวหน้าเรื่องสิว แล้ววันนี้จะมีสกินแคร์ตัวไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

มาเริ่มกันเลย ที่สกินแครืตัวแรก หากสาวๆเป้นสิวสิ่งแรกที่ห้ามขาดเลย ก็คือ เจลแต้มสิว นั่นเอง เราขอแนะนำเจลแต้มสิวที่ดีที่สุดตั้งแต่ลองใช้มา เพราะใช้แล้วสิวยุบไวมาก นั่นก็คือ Breaout Control Targeted Blemish Spot Treatment จากแบรนด์คีลส์นั่นเอง เจลแต้มสิวตัวนี้เหมาะสำหรับคนเป็นสิว มีผิวมันมาก หรือมีผิวแพ้ง่าย เพราะตัวเจลแต้มสิวจะเข้าไปจัดการสิวได้ตั้งแต่ต้นตอ ด้วยส่วนผสมของซัลเฟอร์ 10% ช่วยสิวยุบไว และยับยั้งการเกิดสิวใหม่ไดดีมาก ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตาอย่างอ่อนโยน ไม่ทำให้แสบผิว หรือระคายเคือง จึงปลอดภัยสำหรับคนเป็นสิวสุดๆ และนอกจากนั้นตัวเจลแต้มสิวยังมีส่วนผสมของไนอะซีนาไมด์ ที่เข้ามาเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยปลอบประโลมผิวได้อย่างดี ใครที่อยากสิวยุบไว ต้องเลือกเจลแต้มสิวตัวนี้เลย

นอกจากปัญหาเรื่องสิวอักเสบแล้วยังสิวอุดตันที่เป็นปัญหาคอยกวยใจ และทำให้สาวๆขาดความมั่นใจอยู่เรื่อย อีกไอเท็มที่เป็นตัวช่วยในากรดูแลผิวีท่เป็นสิวก็คือ ครีมรักษาสิวอุดตันนั่นเอง ซึ่งลาโรช โพเซย์เขามีผลิตภัณฑ์ช่วยลดสิวเยอะมาก และตัวที่ตอบโจทย์ในการช่วยดูแลผิวที่เป็นสิวอุดตันก็คือ ครีมรักษาสิว ครีมรักษาสิว  EFFACLAR DUO+M ตัวนี้เขาเป้นเหมือนครีมรักษาสิวแบบครอบจักรวาลมาก เพราะช่วยทั้งเรื่องสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ใครที่ใช้ดูแลผิวหน้าอยู่จะบอกว่ายังสามารถช่วยในการดูแลรอยจากสิวได้อีกด้วย เป็นการช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผสมสำคัญของครีมรักษาสิวตัวนี้คือไนอะซีนาไมด์ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น สิวหาย และสบายใจเรื่องรอย บอกว่าใช้ตัวรี้เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวนั่นเอง

และสุดท้าย เข้าสู่ขั้นตอนการดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใสขึ้น สาวๆที่เคยเป้นสิวมาก่อนคงเข้าใจกันดีว่า ลดสิวแล้วต้องมาลดรอยกันต่อ บางคนรักษาสิวแป๊ปเดียวแต่การลอรอยสิวนี่สิ เป็นเรื่องยาวนานยิ่งกว่า ใครที่กำลังมองหาครีมลดรอยสิวอยู่ต้องมาฟังทางนี้ด่วน ครีมลดรอยสิว ที่เราจะแนะนำก็คือการ์นิเย่  ไบรท์ คอมพลีท วิตามินซี เซรั่ม ครีม SPF 30 PA+++ ที่โดดเด่นด้วยเรื่องของส่วนผสมจากวิตามินซีเข้มข้นถึง 3 เท่า ที่จะเข้ามาช่วยบูสต์ผิวของเราให้สว่าง กระจ่างใสขึ้น สำหรับเรื่องรอยดำ รอยแดงจากสิวสบายใจได้ได้เลย ส่วนผสมของยูซุเลมอนญี่ปุ่นที่เข้มข้นจะวิ่งตรงเข้าไปจัดการรอยสิวได้แบบอยู่หมัด ช่วยทำให้รอยสิวจางลงอย่างเห็นผลลัพธ์ที่ดี และยังช่วยปรัยสีผิวของสาวๆให้กระจ่างใสขึ้น สม่ำเสมอขึ้นนั่นเอง และวิตามินซีที่อยู่ในครีมลดรอยสิวก็เข้ามาปรัสมดุลผิว ให้ผิวหน้าของเราแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ป้องกันการเกิดรอยดำ รอยแดงได้อย่างดี


9
พร้อมสู้ท้าแดดไปกับครีมกันแดดที่จริงใจ แดดแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่น 8)

ทางนี้เลยค่า ใครกำลังตามหากันแดดที่จริงใจ ไม่แห้งไม่ลอก ต้องที่นี่เลยค่ารวมไว้ให้แล้ว พร้อมท้าแดดทุกฤดู แถมใครสายเดินทาง สะดวกแน่นอนเพราะมีในรูปแบบซองให้เลือกใช้ แสงแดดอันตรายกว่าที่เราคิดมากนอกจากเรื่องการทำร้ายผิว และก่อให้เกิดฝ้าแล้วนั้น ยังทำให้ผิวหน้าเราหมองไม่กระจ่างใสอีกด้วย เพราะงั้นทุกครั้งก่อนออกจากบ้านอย่าลืมนึกถึงกันแดดกันนะคะ ไปดูกันเลยค่าว่ากันแดดตัวไหนจะถูกใจจนต้องไปตำบ้าง

มากันที่ตัวแรกเลยค่ะ เซรั่มครีมกันแดด https://www.loreal-paris.co.th/must-know-about-sunscreen ตัวปังตัวแรง จากแบรนด์สุดฮิต สูตร มอยส์ แอนด์ เฟรช จาก L’oreal Paris ครีมกันแดดที่พร้อมปกป้องริ้วรอยแห่งวัยจากแสงแดด ผิวเด้งชุ่มชื้น ด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด มีประสิทธิภาพช่วยปกป้อง UV ได้ถึง 98% ภายในเสี้ยวนาที ปกป้องผิวจากรังสี UVA& UVB ได้อย่างกว้างอันเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ใครหน้าแห้งหมดห่วงเลยค่ะ เพราะตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง แถมยังป้องกันมลภาวะจาก PM 2.5 ได้อีกด้วย ทาติดต่อกันเรื่อย ๆ รับรองเลยว่าให้งานผิวที่สม่ำเสมอสุด ๆ ราคาเอื้อมถึงแบงค์แดงหกใบมีทอนกับคุณภาพและปริมาณสุดคุ้ม ใครอยากหน้าอ่อนเยาว์ต้องนึกถึงตัวนี้เลย ไม่มีไม่ได้แล้วน้า ไปหาซื้อกันด่วนเลยค่า

ตัวสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับครีมกันแดด https://www.garnier.co.th/female-skincare/sun-protection ตัวแม่ในตำนานที่หลายคนยกให้เป็นลูกรัก เพราะตัวนี้มีคุณสมบัติครบสูตรใน 1 ขวด จาก Garnier super UV Invisible Serum Sunscreen SPF 50+ PA+++ สูตรปกป้องผิวโดยเฉพาะ กันแสงแดดจาก UVA UVB ได้ถึง 99% ใครผิวหมองคล้ำ มีฝ้า มีจุดด่างดำ บอกเลยว่าตอบโจทย์สุด ๆ ตัวนี้บอกเลยค่ะว่ายิ่งทาผิวก็ยิ่งไบรท์เพราะมีสารบำรุงเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าไปพร้อมกับการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยนะ เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ การันตีความบางเบาให้ฟีลลิ่งทาเหมือนไม่ได้ทา ไม่รบกวนเมคอัพ ที่สำคัญตัวนี้มีเทคโนโลยี Airlock ที่ช่วยเคลือบกันแดดให้ติดทนผิวแบบที่ไม่ทิ้งคราบขาวไว้เลย ใครผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม ใช้ได้หมดเลยค่า ผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกังวลเลยนะ

สายเที่ยว สายลุย ต้องนี่เลยกับ ครีมกันแดด 7-11 https://www.garnier.co.th/female-skincare/sun-protection สะดวก พกพาง่าย ใช้ได้นาน คุ้มสุด ๆ กันแดดกันใจที่ต้องมีไว้ข้างกาย จาก Garnier Light Complete Super UV แบรนด์ลูกรักของใครหลาย ๆ คน มีทั้งวิตามินซีเข้มข้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสียให้ดูกระจ่างใส และวิตามินอี ที่ช่วยปกป้อง ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายอย่างล้ำลึก แถมตัวนี้ยังมี ไฮดร้า-แอคทีฟ เอเจนท์ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นยาวนาน เนื้อสัมผัสตัวนี้บอกเลยว่าตอบโขทย์คนแต่งหน้ามากค่ะ เพราะว่าเป็นสูตรแมทท์ คุมมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มันเยิ้ม และที่สำคัญไม่ทิ้งคราบขาวให้กวนใจแน่นอน ใช้เป็นเมคอัพเบสได้อีกด้วย ดีขนาดนี้ใครไม่มีต้องรีบไปตำด่วนแล้วน้า

หน้า: [1]