ผู้เขียน หัวข้อ: ประเภทของผ้ากันไฟ ที่มีคุณสมบัติการทนความร้อนได้ดี  (อ่าน 20 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 787
    • ดูรายละเอียด
ประเภทของผ้ากันไฟ ที่มีคุณสมบัติการทนความร้อนได้ดี

ผ้ากันไฟที่มีคุณสมบัติการทนความร้อนได้ดีเยี่ยม มักจะถูกผลิตจากเส้นใยอนินทรีย์ (Inorganic Fibers) หรือเส้นใยสังเคราะห์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อทนต่ออุณหภูมิสูงและเปลวไฟโดยเฉพาะ โดยมีประเภทหลักๆ ดังนี้ (เรียงตามลำดับความสามารถในการทนความร้อนจากน้อยไปมาก):


1. ผ้าใยแก้ว (Fiberglass Fabric / Glass Fiber Fabric)

คุณสมบัติ:

เป็นผ้ากันไฟที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและมีคุณสมบัติที่ดีในการทนความร้อน
ผลิตจากเส้นใยแก้ว (มักเป็น E-Glass) ที่มีคุณสมบัติไม่ติดไฟและทนความร้อนได้สูง
อุณหภูมิที่ทนได้: โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 550°C - 700°C (อุณหภูมิใช้งานต่อเนื่อง) บางเกรดพิเศษอาจทนได้สูงกว่าเล็กน้อย
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานกันสะเก็ดไฟงานเชื่อมทั่วไป, ผ้าห่มกันไฟสำหรับดับไฟขนาดเล็ก, ม่านกันความร้อน, หุ้มท่อหรืออุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิปานกลางถึงสูง


ข้อควรพิจารณา:

ใยแก้วบางชนิดที่ไม่มีการเคลือบผิว อาจทำให้เกิดอาการคันหรือระคายเคืองต่อผิวหนังได้
หากสัมผัสกับความร้อนสูงมากเป็นเวลานาน อาจเริ่มเปื่อยยุ่ยได้


ประเภทที่ปรับปรุงแล้ว:

ผ้าใยแก้วเคลือบซิลิโคน (Silicone Coated Fiberglass Fabric): มีการเคลือบซิลิโคนเพื่อลดอาการคัน, เพิ่มความทนทานต่อการเสียดสี, กันน้ำ, กันน้ำมัน, และทำให้สะเก็ดไฟไม่ติดผ้า สามารถทนอุณหภูมิใช้งานได้ถึงประมาณ 260°C - 320°C สำหรับผิวเคลือบ และโครงสร้างใยแก้วยังคงทนต่อ 550°C ได้
ผ้าใยแก้วเคลือบเวอร์มิคูไลต์ (Vermiculite Coated Fiberglass Fabric): ช่วยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูงขึ้นไปได้อีก อาจถึง 1000°C ในบางกรณี และเพิ่มความทนทานต่อสารเคมี


2. ผ้าซิลิกา (Silica Fabric)


คุณสมบัติ:

ผลิตจากเส้นใยซิลิกาที่มีความบริสุทธิ์สูง (มักจะมากกว่า 96% SiO2) ทำให้มีคุณสมบัติการทนความร้อนที่เหนือกว่าใยแก้วอย่างชัดเจน
มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการเสียดสีได้ดี
อุณหภูมิที่ทนได้: โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 900°C - 1,200°C (อุณหภูมิใช้งานต่อเนื่อง) และสามารถทนอุณหภูมิสูงสุดชั่วขณะได้สูงกว่านั้น
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานเชื่อมหนัก, งานตัดพลาสม่า, ม่านกันความร้อนสูงในอุตสาหกรรม, ฉนวนหุ้มท่อและอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูงจัด, หรือใช้เป็นส่วนประกอบในฉนวนกันความร้อนที่ถอดได้ (Removable Insulation Jackets)


ข้อควรพิจารณา:

ราคาสูงกว่าผ้าใยแก้ว
บางชนิดที่ไม่มีการเคลือบผิวอาจยังคงก่อให้เกิดการระคายเคืองได้บ้าง
ประเภทที่ปรับปรุงแล้ว:

ผ้าซิลิกาเคลือบซิลิโคน (Silicone Coated Silica Fabric): คล้ายกับใยแก้วเคลือบซิลิโคน แต่มีความสามารถในการทนความร้อนของเส้นใยสูงกว่ามาก (ทนได้ถึง 1000°C สำหรับเส้นใย)


3. ผ้าเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber Fabric / Ceramic Fiber Cloth)

คุณสมบัติ:

เป็นวัสดุที่ทนความร้อนได้สูงที่สุดในกลุ่มผ้ากันไฟที่ใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรม
ผลิตจากเส้นใยอลูมิโนซิลิเกต ซึ่งมีคุณสมบัติการเป็นฉนวนความร้อนที่ยอดเยี่ยม
อุณหภูมิที่ทนได้: โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 1,200°C - 1,800°C (อุณหภูมิใช้งานต่อเนื่อง) ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและเกรดการผลิต
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่รุนแรงที่สุด เช่น ม่านกันความร้อนในเตาหลอม, ฉนวนสำหรับอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูงพิเศษในอุตสาหกรรมหนัก (เช่น เหล็ก, แก้ว), หรือใช้เป็นปะเก็นซีลที่อุณหภูมิสูง

ข้อควรพิจารณา:

ราคาสูงที่สุด
การจัดการและการติดตั้งอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเส้นใยอาจฟุ้งกระจายและก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและผิวหนังได้มากกว่าใยแก้วหรือซิลิกา (จึงมักแนะนำให้ใช้ PPE ที่เหมาะสม)

ตารางสรุปคุณสมบัติการทนความร้อนหลัก:

ประเภทผ้ากันไฟ             อุณหภูมิใช้งานต่อเนื่องโดยประมาณ   การใช้งานหลัก                                         ข้อควรพิจารณาหลัก

ผ้าใยแก้ว (Fiberglass)   550°C - 700°C   งานเชื่อมทั่วไป, ผ้าห่มกันไฟ, ม่านกันความร้อนปานกลาง   อาจคัน/ระคายเคืองหากไม่เคลือบผิว, ไม่เหมาะกับอุณหภูมิสูงมากต่อเนื่อง
ผ้าซิลิกา (Silica)            900°C - 1,200°C   งานเชื่อมหนัก, ตัดพลาสม่า, ฉนวนอุณหภูมิสูง, งานที่ต้องการการป้องกันที่เหนือกว่าใยแก้ว   ราคาสูงกว่าใยแก้ว, อาจยังคงระคายเคืองได้บ้างหากไม่เคลือบผิว
ผ้าเซรามิกไฟเบอร์ (Ceramic Fiber)   1,200°C - 1,800°C   งานเตาหลอม, อุตสาหกรรมหนัก, ฉนวนอุณหภูมิสูงพิเศษ   ราคาสูงที่สุด, เส้นใยฟุ้งกระจายได้ง่ายกว่า, ต้องระมัดระวังในการจัดการและสวม PPE ที่เหมาะสม

ส่งออกไปยังชีต
การเลือกประเภทของผ้ากันไฟที่มีคุณสมบัติการทนความร้อนได้ดีที่สุด ควรพิจารณาจาก อุณหภูมิสูงสุดและลักษณะของอันตรายจากไฟ ที่คาดว่าจะเผชิญในสภาพแวดล้อมจริงของโรงงานครับ