บริการทำความสะอาด: การทำความสะอาดและดูแลพื้นผิวต่าง ๆ ในบ้านการทำความสะอาดและดูแล พื้นผิวต่าง ๆ ในบ้าน อย่างถูกต้อง เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความสะอาดและสุขอนามัย เพราะพื้นผิวแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การใช้น้ำยาหรือวิธีการที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายได้
นี่คือคู่มือการทำความสะอาดพื้นผิวหลัก ๆ ในบ้าน:
1. การดูแลรักษาพื้น (Flooring Care)
พื้นเป็นบริเวณที่มีการสัมผัสและสะสมสิ่งสกปรกมากที่สุด จึงต้องดูแลเป็นพิเศษ
พื้นไม้เนื้อแข็ง (Hardwood) และพื้นปาร์เก้ (Parquet)
สิ่งที่ควรทำ:
ดูดฝุ่น/กวาดฝุ่น เป็นประจำทุกวัน โดยใช้ไม้กวาดขนอ่อนหรือเครื่องดูดฝุ่นที่ตั้งค่าสำหรับพื้นแข็ง เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจากเศษกรวดหรือทราย
ถูพื้นด้วยผ้า/ไม้ถูพื้นแบบบิดหมาด เท่านั้น! ควรใช้ น้ำยาทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกลาง หรือสูตรสำหรับไม้โดยเฉพาะ
เช็ดคราบเปียกทันที: น้ำหรือความชื้นเป็นศัตรูตัวฉกาจของพื้นไม้ เพราะอาจทำให้พื้นบวมหรือโก่งได้
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
ห้ามใช้น้ำยาที่มี ฤทธิ์เป็นกรด หรือ สารกัดกร่อน
ห้ามใช้ แปรงขัด หรือ แผ่นใยขัดที่แข็ง
ห้ามปล่อยให้พื้นเปียกน้ำเป็นเวลานาน
พื้นลามิเนต (Laminate)
สิ่งที่ควรทำ:
ดูแลคล้ายพื้นไม้ โดย บิดผ้าให้หมาดที่สุด ก่อนถูพื้น เพื่อป้องกันน้ำซึมตามร่อง
ใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ หรือน้ำยาเฉพาะสำหรับลามิเนต
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
ห้ามใช้น้ำมากเกินไป หรือปล่อยให้น้ำขังบนพื้น
พื้นกระเบื้อง (Tile) และกระเบื้องแกรนิตโต้ (Granitto)
สิ่งที่ควรทำ:
กวาด/ดูดฝุ่น ก่อนเสมอ
ใช้ผ้าถูพื้นชุบน้ำผสม น้ำยาทำความสะอาดทั่วไป หรือน้ำยาล้างจานก็ได้
สำหรับ ร่องยาแนว ที่สกปรกฝังแน่น ควรใช้ แปรงขัด (แปรงสีฟันเก่า) ร่วมกับน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาขจัดคราบ
ในห้องน้ำ สามารถใช้ น้ำยาฆ่าเชื้อ สำหรับพื้นที่เปียกชื้น
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
สำหรับกระเบื้องบางชนิด เช่น หินอ่อน หรือ หินแกรนิต ควรใช้แค่น้ำสะอาดเช็ด เพราะสารเคมีที่มีกรดสูงอาจกัดกร่อนผิวหน้าได้
พื้นพรมและผ้าบุ (Carpet & Upholstery)
สิ่งที่ควรทำ:
ดูดฝุ่น เป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มี แผ่นกรอง HEPA (ถ้ามี) เพื่อกำจัดฝุ่นไรและสารก่อภูมิแพ้
เมื่อมีคราบเปื้อน ให้ใช้ผ้าสะอาด ซับ ทันที ไม่ควรถูหรือขัด เพราะจะทำให้คราบฝังลึก
ควรทำความสะอาด พรมแบบลึก (Deep Cleaning) ด้วยการซักหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญทุก 6-12 เดือน
2. การดูแลพื้นผิวในห้องครัวและเคาน์เตอร์ (Kitchen Surfaces)
สเตนเลสสตีล (Stainless Steel)
สิ่งที่ควรทำ:
เช็ดด้วยผ้าหมาด ๆ ผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์
ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้งทันที เพื่อ ป้องกันคราบน้ำ (Water Spots)
เช็ดไปใน ทิศทางเดียวกันกับลาย ของสเตนเลสเพื่อไม่ให้เกิดรอยด่าง
เคาน์เตอร์หินอ่อน/หินแกรนิต (Marble/Granite Countertops)
สิ่งที่ควรทำ:
เช็ดทำความสะอาดทุกวันด้วย ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ และสบู่อ่อน ๆ (เช่น น้ำยาล้างจานเจือจาง)
ควรมีการ เคลือบผิว (Sealing) ใหม่ทุก 12 เดือน เพื่อป้องกันการซึมของคราบ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกรด เช่น น้ำส้มสายชู หรือน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะจะกัดกร่อนพื้นผิวหิน
3. การดูแลพื้นผิวอื่น ๆ (Other Surfaces)
กระจกและกระจกเงา (Glass & Mirrors)
สิ่งที่ควรทำ:
ใช้ น้ำยาเช็ดกระจก หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย
ใช้ ผ้าไมโครไฟเบอร์ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ในการเช็ด เพื่อให้เงางามและ ไม่ทิ้งรอยริ้ว (Streak-free)
ควรเช็ดในช่วงที่ ไม่มีแสงแดดส่องโดยตรง เพราะความร้อนจะทำให้น้ำยาแห้งเร็วและเกิดรอยด่างได้
ผนังทาสี (Painted Walls)
สิ่งที่ควรทำ:
ปัดฝุ่น ด้วยผ้าแห้งหรือไม้ปัดฝุ่น
สำหรับรอยเปื้อน ให้ใช้ ฟองน้ำนุ่ม ๆ ชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานเจือจาง เช็ดอย่างเบามือ
ควร ทดสอบ น้ำยาทำความสะอาดในบริเวณที่มองไม่เห็นก่อนเสมอ เพื่อดูว่าสีผนังซีดจางหรือไม่
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronics & Screens)
สิ่งที่ควรทำ:
ปิดเครื่อง ก่อนทำความสะอาด
ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ แห้ง หรือ หมาดมาก ๆ (ชุบน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะ)
สำหรับคีย์บอร์ดและรีโมท ให้เช็ดฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ 70%
เคล็ดลับการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ
ทำจากบนลงล่าง: เริ่มทำความสะอาดจากบริเวณที่อยู่สูง (เช่น พัดลมเพดาน ชั้นวางของ) ลงมายังพื้น เพื่อไม่ให้ฝุ่นตกลงไปเปื้อนพื้นที่ทำความสะอาดไปแล้ว
ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม: ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ในการเช็ดฝุ่นและพื้นผิวเรียบ เพราะสามารถขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้ถึง 99% ด้วยน้ำเปล่า
หลีกเลี่ยงสารกัดกร่อน: ในกรณีส่วนใหญ่ น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ หรือน้ำสบู่อ่อน ๆ ก็เพียงพอแล้ว การใช้สารกัดกร่อนหรือกรดที่รุนแรงเกินความจำเป็นอาจทำลายพื้นผิวได้
การทำความสะอาดที่ถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้บ้านสะอาด แต่ยังช่วย ยืดอายุการใช้งาน ของวัสดุตกแต่งบ้านของคุณอีกด้วยค่ะ